อาการตื่นนอนแล้วเพลีย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งอาการอ่อนเพลียภายหลังจากการตื่นนอนนี้จะทำให้เกิดความขี้เกียจอย่างรุนแรงตามมา เช่น ไม่อยากลุกจากที่นอน ไม่อยากไปทำงาน (ต้องมานั่งหาสาเหตุการลาอีก ^ ^) อยากจะนอนต่ออย่างเดียว แต่ว่ายิ่งนอนต่อก็ยิ่งเพลีย พาลให้อารมณ์ขุ่นมัว อะไรก็ขวางหูขวางตาไปเสียหมด
————– advertisements ————–
อาการตื่นนอนแล้วเพลีย เกิดจากอะไร
- นอนไม่พอ – พบว่าเป็นสาเหตุหลักของอาการตื่นนอนอ่อนเพลีย อาจเป็นเพราะนอนดึก ทำงานหนักเกินไปจนร่างกายอ่อนล้ามาก
- นอนหลับไม่สนิท – ในบางรายที่นอนหลายชั่วโมงก็สามารถพบอาการอ่อนเพลียได้ถ้าการนอนนั้นเป็นการนอนที่หลับไม่สนิท อันเนื่องมาจากความเครียด ความคิดฟุ้งซ่านในสมอง ไม่สามารถบริหารความคิดของตนเองได้
- เป็นโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง – โรคนี้จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ทั้งวัน ไม่ใช่เพียงแค่ภายหลังการตื่นนอนเท่านั้น ซึ่งโรคนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคแต่เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกต้องของเราเอง (ทำนองเดียวกับโรค NCDs) เช่นการนอนดึก การกินอาหารขยะมากเกินไปจนร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ก็สามารถทำให้เกิดอาการตื่นนอนแล้วเพลียได้

อาการตื่นนอนแล้วเพลีย
อาการตื่นนอนแล้วเพลีย รักษาอย่างไร
- อาการตื่นนอนแล้วเพลียนั้นสามารถรักษาได้ไม่ยาก เพียงแต่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตใหม่ให้ดีขึ้น ดังนี้
- ไม่นอนดึกเกินไป ฝึกการนอนแต่หัวค่ำ
- รับประทานอาหารเย็นเร็วขึ้น งดอาหารมื้อดึก
- งดอาหารขยะจำพวกฟาสต์ฟูดทั้งหลาย หันมารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- บริหารความเครียดและความคิดฟุ้งซ่านของตนเอง หาอะไรที่เพลิดเพลินทำก่อนนอน เช่นดูหนังตลก นั่งสมาธิ เป็นต้น
- แก้ไขอาการตื่นนอนแล้วเพลียโดยการออกกำลังเบาๆก่อนนอนสัก 15 นาที เช่น การเดินรอบบ้าน
- การรักษาอาการตื่นนอนแล้วเพลียนั้น อย่าใช้ยานอนหลับ เพราะจะทำให้เกิดอาการดื้อยาและมีอาการอ่อนเพลียหนักกว่าเดิม
- ปรับบรรยากาศห้องนอนให้น่านอน มีการไหลเวียนอากาศที่ดี
เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถแก้อาการตื่นนอนแล้วเพลียได้แล้ว แต่ถ้าอาการไม่หายแถมยังหนักขึ้น อาจจะต้องไปปรักษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาอาการที่แท้จริงต่อไป
-------------- advertisements --------------
-------------- advertisements --------------